วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Japanese Innovation: เครื่องทำซูชิ

(ไม่เกี่ยวอะไรกับUser Innovationเลยค่ะ)

วันนี้ดูทีวีตอนเช้า
เขาพูดเกี่ยวกับเครื่องทำซูชิโดยบริษัท Suzumo(鈴茂)

















เครื่องมีหลายรุ่นเหมือนกัน แต่เห็นรุ่นนี้มันคล้ายๆถังข้าว เก๋ดี
เลยหยิบมาให้ชมกัน
สนนราคาเครื่องละ 1,000,000เยน หารสามก็สามแสนบาทค่ะ
ปั้นข้าวได้๑ก้อนภายใน๒วินาที (เร็วมากก)

แค่ใส่ข้าวในหม้อ ข้าวมันจะถูกเครื่องดันปุ๊ดๆขึ้นมาเป็นก้อนค่ะ
จากนั้น ก็แค่เอาเนื้อปลาวางแปะหน้าเท่านั้นเอง
สามัญชนคนเดินดินใครๆก็ทำซูชิได้ถ้ามีเครื่องนี้

เขาว่ากันว่า กว่าจะฝึกคนคนหนึ่งให้ปั้นซูชิเนี่ย
เค้าฝึกกันอย่างน้อย10ปีค่ะ
จะบีบข้าวยังไงไม่ให้แตก ไม่ให้ร่วนเกิน
ให้พอดีคำ ความเร็วเท่าไรเมล็ดข้าวจะได้ไม่แห้ง
หรือข้าวเกาะตัวกันเป็นรูปสวยๆ

ค่าแรงพ่อครัวส่วนใหญ่เริ่มทีประมาณ50,000บาทขึ้นไป
เพราะฉะนั้น ถ้าเครื่องจักรราคาสามแสนเข้ามาแทนการจ้างคนคนหนึ่ง
ครึ่งปีกว่าก็คืนทุน ถือว่าไม่แพงเลย

บริษัทซูซูโม่ใช้เวลาในการวิจัยและปรับปรุงเครื่องมากว่า330ปี
ตอนแรก เครื่องมันคีบแล้วข้าวแตกง่ายบ้าง ร่วนไปบ้าง
แกก็ปรับใบมีดตัดข้าว ปรับวิธีการปั้น

แต่เครื่องจักร ยังไงมันก็เป็นเครื่องจักรวันยังค่ำ
คนต่างชาติกะหลั่วๆอย่างฉันดู ยังพอดูออกว่า อันไหนคนปั้น อันไหนเครื่องปั้น
ถ้าเครื่องปั้นมันจะกลมๆกว่า หัวมนท้ายเท่ากันเป็นบล๊อกๆ
ถ้าคนปั้น มันจะเรียวๆกว่าค่ะ

แต่เขาพิสูจน์แล้วว่า คุณสมบัติของจริงกับที่เครื่องทำมันไม่ต่างกัน
ญี่ปุ่นเขาทดสอบโดยการจับข้าวที่พ่อครัวปั้นกับทีเครื่องนี้ปั้นไปตรวจเข้าเครื่องMRIเลยค่ะ
(ไอ้เครื่องที่เอ๊กซเรย์สมอง ไขมันในท้องน่ะค่ะ)
เห็นแล้วตลกดีที่ข้าวก้อนเล็กๆสองก้อน ถูกลำเลียงเข้าสายพานเข้าเครื่องจักรขนาดใหญ่

ผลสรุปว่า อุณหภูมิความร้อนที่เหลือในก้อนข้าวและช่องว่างอากาศของทั้งสองแบบใกล้เคียงกันมาก

เจ้าของบริษัทเล่าว่า กว่าจะทำได้ถึงขั้นนี้ ผ่านการดัดแปลงปรับเปลี่ยนมาเยอะมาก
แกพัฒนามาถึงขนาดนี้ได้เพราะความเจ็บใจค่ะ
แต่ก่อน แกเคยถูกพ่อครัวที่ทำซูชิสบประมาทว่า
ซูชิจากเครื่องจักรจะไปอร่อยเท่าที่คนปั้นสดๆได้ไง
แกเลยเจ็บใจ พยายามคิดค้นปรับปรุงเครื่องจักรให้ใกล้เคียงของจริงได้มากที่สุด
ลุงตบท้ายด้วยคำซึ้งว่า อยากให้ของแพงๆอย่างซูชิเป็นสิ่งทีคนธรรมดาหากินได้ในราคาถูก
ทุกคนจะได้มีความสุข

ฉันดูข่าวนี้ ฉันก็รู้สึกเหงาๆนะ เพราะฉันแอบเชียร์ซูชิแบบที่คนปั้นมากกว่า
ชอบดูเวลาพ่อครัวหยิบข้าวมาฟุบฟับ บีบๆด้วยสีหน้าขะมักเขม้น
เอาสองนิ้วคีบเนื้อปลามาแปะโชะ ร้อง"ไฮ้!"แล้ววางตรงหน้าเรา

ฉันเอง คงเหมือนคุณลุงแก่ๆ
ที่ยังยืนยันว่า เสียงเพลงจากแผ่นเสียงเพราะกว่าฟังจากแผ่นCD
ทั้งๆที่เด็กๆรุ่นนี้มันไม่รู้จักแผ่นเสียงแล้ว

อีกหน่อย...คงไม่ค่อยมีใครเห็นคนปั้นซูชิแล้วเหรอ
นึกแล้วก็เศร้าใจ

ป.ล. ใครอยากดูรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องปั้นนี้ ลองคลิกลิ้งค์ใต้ภาพนะคะ
หรือไม่ก็ดูทางYoutubeตามลิ้งค์ข้างล่างค่ะ
มีหลายแบบค่ะ เช่น แบบห่อสาหร่าย แปะเนื้อปลา
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น